8 ผลข้างเคียง ที่เกิดจากการ “กินกล้วย” เยอะเกินพอดี

8 ผลข้างเคียง ที่เกิดจากการ “กินกล้วย” เยอะเกินพอดี
หัวข้อที่น่าสนใจ

หลายคนอาจจะทราบว่า “กล้วย” ถือเป็นผลไม้โปรดของใครหลายคน รวมไปถึงคนที่กำลังไดเอ็ท แน่นอนว่า Banana อุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหารหลากหลายชนิด รวมถึงยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย คนนิยมรับประทานเพื่อให้อิ่มท้อง แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อนว่าหากเรารับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลเสียได้ไม่รู้ตัว เราจึงมี 8 ผลข้างเคียง ที่เกิดจากการ “กินกล้วย” มาบอกค่ะ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหากบริโภคมากเกินพอดี

1. ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

 เมื่อเทียบระหว่างกล้วยกับคุกกี้หรือมันฝรั่งทอดกรอบ จะมอบพลังงานน้อยกว่า แต่ก็ยังมีแคลอรี่เพียงพอที่จะทำให้น้ำหนักขึ้นได้ แนะนำให้เลือกรับประทานผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง เช่น แตงโม สตรอเบอร์รี่ แคนตาลูป และลูกพีช ซึ่งเป็นตัวเลือกอาหารว่างดีกว่าเพราะมีแคลอรี่น้อยกว่า มีใยอาหารสูง และช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน

2. ผลข้างเคียง เป็นไมเกรนได้

เป็นไมเกรนได้
อาจส่งผลให้เป็นไมเกรนได้

หากมีปัญหากับอาการปวดไมเกรนอย่างรุนแรงอาจต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานกล้วยไปก่อน เพราะ Banana มีไทรามีน (Tyramine) เป็นสารที่พบในอาหารหลายชนิด เช่น ชีส ปลา เนื้อสัตว์ อาการปวดศีรษะไมเกรน

3. ภาวะโพแทสเซียมสูง

ภาวะโพแทสเซียมสูง
เกิดภาวะโพแทสเซียมสูง

ทราบกันดีอยู่แล้วว่ากล้วยมีโพแทสเซียมซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่มีข้อจำกัดว่าโพแทสเซียมที่มากเกินไปนำไปสู่ภาวะเรียกว่าภาวะโพแทสเซียมสูง (Hyperkalemia) ซึ่งจะพบอาการต่างๆ เช่น ชีพจรเต้นเร็ว คลื่นไส้ และหัวใจเต้นผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้หัวใจวายได้

4. ผลข้างเคียง ฟันผุ

ฟันผุ
สามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากของคุณได้มากกว่าเมื่อเทียบกับช็อกโกแลต ชะเอมเทศแดง และหมากฝรั่ง

เนื่องจากกล้วยมีแป้งสูงอาจทำให้ฟันผุได้หากไม่รักษาสุขอนามัยของฟันที่เหมาะสม จากการศึกษาบางชิ้นพบว่า Banana สามารถเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากของคุณได้มากกว่าเมื่อเทียบกับช็อกโกแลต ชะเอมเทศแดง และหมากฝรั่ง นั่นเพราะแป้งละลายช้าในปาก ในขณะที่น้ำตาลละลายเร็วกว่า ดังนั้นเมื่อรับประทาน Banana อนุภาคของมันจะอยู่ระหว่างฟันได้นานถึง 2 ชั่วโมง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดึงดูดแบคทีเรียมากขึ้น และส่งผลให้ฟันผุมากขึ้นนั่นเอง

5. ผลข้างเคียง ง่วงนอน

ง่วงนอน
ทำให้ง่วงนอน

การกินกล้วยเป็นมือเช้าเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ เพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันสามารถทำให้รู้สึกง่วงได้แม้จะเพิ่งเริ่มวันใหม่ก็ตาม เนื่องจากอุดมไปด้วยโพรไบโอติกซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จะไปลดประสิทธิภาพการตื่นตัว ซึ่งไม่เพียงจะทำให้รู้สึกง่วงนอนเท่านั้น แต่ยังมีแมกนีเซียมในปริมาณสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซึ่ เพราะฉะนั้นควรทานเป็นอาหารว่างตอนมื้อเย็นจะดีที่สุด

6. ผลข้างเคียง ปวดท้อง

ปวดท้อง
กล้วยหากกินในปริมาณมากเกินไปก็อาจมีอาการอาเจียนหรือท้องร่วงทันที

กล้วยเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ มีฤทธิ์ลดกรดตามธรรมชาติและสามารถบรรเทาอาการต่างๆ เช่น อาหารไม่ย่อย ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงนี้ยังช่วยเพิ่มการผลิตเมือกในกระเพาะอาหารซึ่งช่วยป้องกันการระคายเคืองของเยื่อบุกระเพาะอาหาร หากกินในปริมาณมากเกินไปก็อาจมีอาการอาเจียนหรือท้องร่วงทันที

7. ผลข้างเคียง ท้องผูก

ท้องผูก
คนที่เป็นท้องผูกเรื้อรังควรเลี่ยงทานกล้วย

เชื่อว่าหลายคนต้องประหลาดใจเป็นแน่เมื่อบอกว่ากล้วยทำให้ท้องผูก Banana ช่วยเรื่องการทำงานของลำไส้ และช่วยแก้ปัญหาท้องผูก แต่นั่นใช้ได้กับลูกที่สุกแล้วเท่านั้นค่ะ แต่ผลดิบจะอุดมด้วยแป้งและมีกรดแทนนิกในปริมาณมากที่มีผลยับยั้งระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นตัวการเพิ่มความเสี่ยงของอาการท้องผูกได้ ดังนั้นใครที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงดีที่สุดค่ะ

8. ผลข้างเคียง เกิดแก๊สและท้องอืด

เกิดแก๊สและท้องอืด
อาจเกิดแก๊สและท้องอืดได้

การทานกล้วยมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดแก๊สและท้องอืด ซึ่งจะทำให้รู้สึกแน่นท้องและกดดันในช่องท้องจากการสะสมของแก๊สเคลื่อนไหวช้าๆ ในลำไส้ได้ เพราะใน Banana มีซอร์บิทอล (น้ำตาลแอลกอฮอล์เกิดขึ้นตามธรรมชาติ) รวมถึงมีไฟเบอร์แบบละลายน้ำได้ ซึ่งกระบวนการสลายทั้ง 2 อย่างนี้จะผลิตแก๊สไฮโดรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน ซึ่งส่งผลให้บางคนมีอาการท้องอืดมากขึ้น แนะนำให้แบ่งกินทีละครึ่ง แทนที่จะกินลูกใหญ่ทีเดียว

แม้ว่ากล้วยจะเป็นผลไม้อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่ดีต่อสุขภาพ และอร่อย แต่การรับประทานในปริมาณมากเกินไป รวมไปถึงการรับประทานผลดิบก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ (2 ลูกต่อวัน) และเลือกแบบที่สุกกำลังดี เพื่อเป็นการป้องกันผลเสียตามมาในภายหลัง

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ workoutkan

sponsor by www.essexinfo.net