10 ท่าคาร์ดิโอ เบิร์นไขมันแบบเน้นๆ ลดไว ออกที่บ้านก็ได้

10 ท่าคาร์ดิโอ เบิร์นไขมันแบบเน้นๆ ลดไว ออกที่บ้านก็ได้
หัวข้อที่น่าสนใจ

ถ้าจะมองหาท่าออกกำลังกายที่ช่วยเบิร์นไขมันได้ดี น้ำหนักลงไว เหนื่อยหน่อยแต่เห็นผลชัวร์ๆ เราขอแนะนำการบริหารร่างกายแบบ คาร์ดิโอ (Cardio) เลยค่ะ นอกจากช่วยเบิร์นไขมันแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่สนุกด้วยนะ ซึ่งก็มีอยู่หลายท่าและหลายประเภทด้วยกัน วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 ท่าคาร์ดิโอ แบบง่ายๆ มือใหม่หัดเข้าวงการนี้ก็สามารถทำได้ค่ะ ตามไปดูกันเลย

1. ท่า Squat

ท่า Squat
ท่า Squat
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : ต้นขาด้านหน้า / ก้น
  • แนะนำวิธีทำ
    • ทำ 10-15 ครั้ง 2-3 เซต หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • ย่อตัวลักษณะนั่งลงตรงๆ ไม่โน้มตัวไปด้านหน้ามากเกินไป

2. ท่า Alternating Backward Lunge

ท่า Alternating Backward Lunge
ท่า Alternating Backward Lunge
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : ต้นขาด้านหน้า / ก้น
  • แนะนำวิธีทำ
    • ทำสลับซ้าย-ขวา 10-15 ครั้ง 2-3 เซต หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • ก้าวเท้าไปด้านหลัง แล้วย่อเข่าลงหาพื้นตรงๆ ไม่โน้มตัวไปด้านหน้าหรือด้านหลังมากเกินไป

3. ท่า Alternating Side Squat

ท่า Alternating Side Squat
ท่า Alternating Side Squat
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : ต้นขาด้านหน้า / ต้นขาด้านใน / ก้น
  • แนะนำวิธีใช้
    • ทำสลับซ้าย-ขวา 10-15 ครั้ง 2-3 เซต หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • ขณะทำให้เกร็งท้องไว้เล็กน้อย และวางเท้าให้กว้างพอดี ไม่แคบหรือกว้างเกินไป

4. ท่า Burpee

ท่า Burpee
ท่า Burpee
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : ต้นขาด้านหน้า / ไหล่
  • แนะนำวิธีทำ
    • ทำ 10-15 ครั้ง 2-3 เซต หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • มือใหม่อาจจะยังไม่ต้องลงสุดเหมือนท่าวิดพื้น

5. ท่า Knee Push Up

ท่า Knee Push Up
ท่า Knee Push Up
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : อก / ต้นแขนด้านหลัง
  • แนะนำวิธีทำ
    • ทำ 10-15 ครั้ง 2-3 เซต หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • ถ้ารู้สึกเบาไป ให้ทำแบบวิดพื้นปกติได้เลย ไม่ต้องวางเข่า และพยายามโฟกัสที่อก

6. ท่า Plank Shoulder Tap

ท่า Plank Shoulder Tap
ท่า Plank Shoulder Tap
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : หน้าท้อง / แกนกลางลำตัว / ไหล่
  • แนะนำวิธีทำ
    • ทำสลับซ้าย-ขวา 10-15 ครั้ง 2-3 เซต หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • เกร็งหน้าท้อง ลำตัว หลังไม่แอ่น และขณะทำพยายามให้ตัวโยกไปมาน้อยที่สุด

7. ท่า High Knee Run

ท่า High Knee Run
ท่า High Knee Run
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : กลุ่มกล้ามเนื้องอสะโพก
  • แนะนำวิธีทำ
    • วิ่งยกเข่าสูงอยู่กับที่ จับเวลา 15-30 วินาที
    • ถ้ารู้สึกว่าหนักเกินไปอาจจะลองยกเข่าไม่ต้องสูงมาก (Low Knee Run) หรือวิ่งเหยาะๆ อยู่กับที่

8. ท่า Forward Jump to Backward Bounce

ท่า Forward Jump to Backward Bounce
ท่า Forward Jump to Backward Bounce
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : ต้นขาด้านหน้า / น่อง / ก้น
  • แนะนำวิธีทำ
    • กระโดดไปข้างหน้าและกลับ 5-10 รอบ หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • จังหวะกระโดดถอยหลังกลับ สำหรับใครที่ยากเกินไปให้เปลี่ยนเป็นเดินถอยหลังกลับแทน

9. ท่า Inchworm

ท่า Inchworm
ท่า Inchworm
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : หน้าท้อง / แกนกลางลำตัว
  • แนะนำวิธีทำ
    • ก้มตัวลงตรงๆ และใช้มือไต่ไปข้างหน้าและไต่กลับ
    • จังหวะที่ไต่ไปจนสุด ไม่ต้องไปถึงจุดที่หลังแอ่น เหยียดไปพอประมาณและไต่กลับ

10. ท่า Jumping Jack

ท่า Jumping Jack
ท่า Jumping Jack
  • กล้ามเนื้อที่ใช้ : ต้นขาด้านหน้า / น่อง / ไหล่
  • แนะนำวิธีทำ
    • กระโดดตบ 10-15 ครั้ง หรือจับเวลา 15-30 วินาที
    • ท่านี้ไม่จำเป็นต้องกระโดดแรงหรือสูงมากเกินไป กระโดดเบาๆ ให้ถูกจังหวะและต่อเนื่อง

ข้อจำกัดของการออกกำลังกายคาร์ดิโอ

สำหรับการเล่นท่าคาร์ดิโอ นั้นมีข้อจำกัดที่อาจจะไม่ได้แตกต่างจากการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ มากนัก ซึ่งข้อจำกัดหลักๆ จะเป็นเรื่องของความเหมาะสมในการทำกิจกรรมซะมากกว่าค่ะ ความเข้มข้นหรือความถี่ในการเล่น ข้อควรระวัง เช่น มือใหม่อาจจะเริ่มจากกิจกรรมง่ายๆ อย่างการเดิน ปั่นจักรยาน รวมถึงข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคหรือภาวะทางร่างกายของแต่ละคน เป็นต้น

อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการเล่นคาร์ดิโอ

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการเล่นท่าคาร์ดิโอแบบหักโหมเล่นนานเกินไปย่อมมีผลเสีย ดังนั้น ควรทำตามความพร้อมของบอดี้เรา ค่อยเป็นค่อยไป และควรสังเกตอาการของร่างกายอยู่บ่อยๆ ว่าทำไหวแค่ไหน มิเช่นนั้นอาจจะอยู่ในภาวะ Overtraining คือผลมาจากการฝึกซ้อมที่อาจจะหนักเกินไป ยาวนานเกินไป ร่างกายได้พักน้อยเกินไป หรือการกินอาหารน้อยเกินไป ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอต่อพลังงานที่เสียไป โดยอาการเบื้องต้น เช่น รู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร เป็นต้น

ถ้าสังเกตสัญญาณเหล่านี้ได้ก็ควรลดความเข้มข้นของการออกกำลังกาย จัดตารางอย่างเหมาะสม ให้ร่างกายได้มีเวลาพักมากขึ้น รวมถึงกินอาหารให้หลากหลายและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ใครบ้างที่ไม่ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ

  • คนที่มีภาวะเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจ
  • โรคประจำตัวเกี่ยวกับข้อต่อ กระดูก
  • โรคเบาหวาน
  • ความดันโลหิตสูง
  • โรครุนแรงอื่นๆ

แต่ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อนเล่นคาร์ดิโอ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำกิจกรรมแบบไหนได้บ้าง สามารถทำได้แค่ไหน เพราะเราควรให้ความสำคัญเป็นอับดับหนึ่งเลยเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองนะคะ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ workoutkan

sponsor by www.essexinfo.net