ใครที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย แต่ไม่อยากออกแรงเยอะหรือใช้กำลังหนัก ๆ เรามีทางออกกับการเล่น พิลาทิส (Pilates) การออกกำลังกายที่สาว ๆ ชื่นชอบ ไม่ต้องยกน้ำหนัก หรือคาดิโอให้เหนื่อยหอบ แต่ก็สามารถมีทรวดทรงองค์เอวที่สวยได้ วันนี้เราจึงจะสาว ๆ ทุกคน รวมไปถึงหนุ่ม ๆ ที่สนใจอยากจะเล่น แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร เรามีคำตอบให้คุณ พร้อมบอกความหมาย และวิธีการเล่นที่ถูกต้อง
พิลาทิส กับ โยคะ ความเหมือนที่แตกต่าง
พิลาทิส (Pilates) เป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งช่วยสร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย ช่วยในเรื่องลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่าง ทำให้สัดส่วนกระชับ นอกจากนี้พิลาทิส ยังช่วยปรับบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้น แก้ไขอาการหลังแอ่น หลังค่อม แก้อาการปวดหลัง ออฟฟิศซินโดรม และยังช่วยผ่อนคลายจิตใจได้อีกด้วย แถมยังถือเป็นการออกกำลังกายที่มีความปลอดภัยสูง สามารถเล่นได้ทั้งที่ยิมและที่บ้าน และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย แม้จะเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถออกกำลังกายแบบ Pilates ได้
หลักการ
- พิลาทิส (Pilates) เริ่มมีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย Joseph Pilates มุ่งไปที่แกนกลางลำตัว รักษาสมดุลให้กระดูกสันหลัง เป็นการออกกำลังกายที่เน้นเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเสริมความยืดหยุ่น เพื่อฟื้นฟูร่างกายและสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง โดยจะยึดหลักของกายวิภาคที่มีความซับซ้อน
- โยคะ (Yoga) เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยสร้างความยืดหยุ่นและความอ่อนตัวให้กล้ามเนื้อในร่างกาย ซึ่งโยคะเน้นที่การฝึกจิตใจ ฝึกลมหายใจ ให้ร่างกายและจิตใจผสานเข้าด้วยกัน เป็นศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มากกว่า 5,000 ปี มีต้นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย
ความซับซ้อนต่างกัน
- พิลาทิส เป็นระบบที่ซับซ้อน จะเน้นไปที่การทำท่าออกกำลังกายให้ถูกต้องตามหลักกายวิภาค แต่ละท่านั้นจะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องไปพร้อม ๆ กับการฝึกหายใจ
- โยคะ จะปรับสมดุลชีวิตและจิตใจ มากกว่าแค่การออกกำลังกาย โดยจะเป็นการทำท่านิ่ง ๆ ไว้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วจึงจะค่อย ๆ เปลี่ยนท่าทางไปพร้อมกับการหายใจที่เป็นจังหวะ
เน้นจุดต่างกัน
- พิลาทิส เน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงแกนกลาง และเสริมด้วยความยืดหยุ่น
- โยคะ เน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ
วิธีหายใจต่างกัน
- พิลาทิส หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก
- โยคะ หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางจมูก
อุปกรณ์ต่างกัน
- พิลาทิส ฝึกได้ทั้งบนเสื่อ บนเครื่องอุปกรณ์ บนผืนผ้า (เครื่องพิลาทีสจะช่วยให้เห็นกล้ามเนื้อชัดเจนขึ้น)
- โยคะ ส่วนมากจะเล่นบนเสื่อโยคะเท่านั้น
ประเภทของพิลาทิส ทั้ง 3 ประเภท
- พิลาทิสบนเสื่อ : เป็นท่าออกกำลังกายคล้ายโยคะ แต่เน้นท่าที่บริหารแกนกลางลำตัวและหน้าท้อง ฝึกเล่นเองได้ง่าย
- พิลาทิสรีฟอร์มเมอร์ : เล่นกับอุปกรณ์สำหรับพิลาทิสโดยเฉพาะ เช่น เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer), คาดิลแลค (Cadillac), เก้าอี้วุนดา (Wunda Chair) โดยอุปกรณ์จะใช้ในการดึงและยืด เพื่อต้านแรงโน้มถ่วงหรือให้ร่างกายได้ออกแรงตามแรงโน้มถ่วง ส่วนใหญ่ต้องไปเล่นที่ฟิตเนส
- พิลาทิสฟลาย (Pilates fly) : เล่นกับอุปกรณ์ผืนผ้าที่ห้อยจากที่สูง โดยใช้ผ้าเป็นตัวยึดในการทำท่าต่างๆ เป็นการนำศาสตร์ของโยคะ พิลาทิส และยิมนาสติก ผสมผสานเข้าด้วยกัน ส่วนใหญ่ต้องไปฝึกเล่นที่ฟิตเนส
ระหว่างพิลาทิสกับโยคะ อันไหนได้ประโยชน์กว่ากัน
แท้จริงแล้วไม่มีอะไรมีประโยชน์ไปกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่นเสียมากเพราะมีประโยชน์ในคนละด้าน ซึ่งประโยชน์ของพิลาทิส ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มสมดุลของร่างกาย การทรงตัว และการเคลื่อนไหวของข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยแก้อาการหลังแอ่น หลังค่อม หรือไหล่ห่อ เลยสามารปรับบุคลิกให้ดีขึ้นได้
ถึงแม้ว่าจะไม่ช่วยลดน้ำหนักได้โดยตรง แต่ช่วยได้ในทางอ้อม นั่นคือ เพิ่มมัดกล้ามเนื้อ พอมีกล้ามเนื้อมากขึ้นก็จะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีขึ้นตามไปด้วย หากต้องการลดน้ำหนักให้เห็นผลชัดเจน ก็ควรเล่นพิลาทิสควบคู่กับการควบคุมอาหารไปด้วย อีกทั้งการเล่นพิลาทิสเป็นประจำ จะช่วยยืดหยุ่นส่วนต่าง ๆ และลดความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือการเต้น ที่ขาดไปไม่ได้นั่นก็คือลดอาการบาดเจ็บของหลังและแก้โรคข้ออักเสบ
โห พิลาทิส แตกต่างกับโยคะโดยสิ้นเชิงเลย ทั้งที่ลักษณะการเล่นก็แอบจะคล้ายกันอยู่นะ แต่หลักการ วิธีการเล่น รูปแบบการหายใจ ก็ไม่เหมือนกันเลย อย่างผ่อนคายสบายจิตต้องโยคะ แต่ถ้าอยากแข็งแรง สร้างกล้ามเนื้อปัง ๆ ก็ต้องพิลาทิส แปลกแหะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องอาศัยการบอดี้เวทหรือคาดิโอ แต่สาว ๆ หรือใครก็ตามที่เล่น Pilates กลับมีรูปร่างที่แข็งแรงและดูบึกบึนไม่แพ้พวกเข้าฟิตเนสเลย ถ้ารู้แบบนี้แล้ว อยากชวนสาว ๆ ไปเล่นพิลาทิสจังเลย
สามารถติดตามอ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ Workoutkan – รับเคล็ดลับดูแลสุขภาพกันเลยที่นี่
