ไมเกรน โรคปวดหัวที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราเป็นปัญหามากขึ้น โดยสาเหตุมักเกิดจากความเครียดหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการรับประทานอาหารก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เราสามารถที่อาการปวดหัวไมเกรนได้เช่นกัน วันนี้เราเลยจะมาบอก 8 อาหาร กระตุ้นไมเกรน ที่คนเป็นไมเกรนต้องหยุดกิน จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
อาการปวดหัวไมเกรน เป็นแบบไหน
ไมเกรน (Migraine) คือ โรคปวดศีรษะชนิดหนึ่งที่มีความซับซ้อนและมีหลายปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการได้ โดยในงานวิจัยระบุว่าอาจมีสาเหตุเกิดมาจากพันธุกรรม การทำงานของหลอดเลือดที่ผิดปกติ รวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดสะสม สภาพแวดล้อมของที่ทำงานและที่อยู่อาศัย ตลอดจน อาหารกระตุ้นไมเกรน

ซึ่งสมองส่วนสำคัญในการเกิดไมเกรน คือ ไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) ที่เกิดการทำงานผิดปกติได้นานถึง 48 ชั่วโมงก่อนเกิดอาการ อาการในระยะนี้จะเรียกว่าอาการนำของไมเกรน (Prodrome Symptoms) เช่น อ่อนเพลีย ปวดตึงต้นคอ คลื่นไส้ มีอารมณ์แปรปรวน สมาธิไม่ค่อยดี หาวบ่อย ง่วงหรือมีความอยากอาหารบางชนิด
ปัจจัยในการเกิดอาการปวดหัวไมเกรน
- ความเครียด ถือว่าเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคหรืออาการไมเกรนได้เกือบ 70%
- ตารางการนอนมีการเปลี่ยนแปลง การนอนหลับมากหรือน้อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนได้
- การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
- การดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
- การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
- อาหาร อาหารที่เรารับประทานเข้าไปก็อาจจะเข้าไปกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนได้เช่นกัน
- การขาดน้ำ
- แสง แสงธรรมชาติ แสงสว่างและหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ รวมไปถึงหลอดไฟกะพริบ
- กลิ่น
8 อาหาร กระตุ้นไมเกรน ต้องหยุดกินอะไรบ้าง
ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลือง

เนื่องจากมีการวิจัยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลืองจะมีสารกลูตามิก แอซิด, โปรตีนจำพวกไบโอจินิก เอมีน, สารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ที่กระตุ้นการหลั่งสาร CGRP สารสื่อประสาทหรือนิวโรเปปไทด์ชนิดหนึ่งในร่างกายที่ออกฤทธิ์เกี่ยวกับกลไกการรับความเจ็บปวดผ่านเส้นประสาทสมอง รวมไปถึงยังกระตุ้นเซลล์สมอง ทำให้การดื่มนมถั่วเหลืองหรือกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากถั่วเหลืองอาจจะมีความเสี่ยงที่จะปวดหัวไมเกรนนั่นเอง
แอลกอฮอลล์ อาหาร กระตุ้นไมเกรน

อย่างที่ทราบกันดีว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์นั้นมีโทษต่อร่างกายหลากหลายรูปแบบ เนื่องจากมีสารไทรามีนที่เข้าไปลดระดับสารเซโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง ทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนอย่างรุนแรงได้ภายใน 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะ “ไวน์แดง” ที่เป็นตัวกระตุ้นอาการปวดหัวไมเกรนราวได้ 30% เลยทีเดียว
ชีส (ที่บ่มหมักเป็นเวลานาน)

ถึงแม้ว่าคนไทยจะกินชีสกันอยู่เป็นประจำ แต่เราเองก็ไม่ได้ชีสที่บ่มหรือหมักเป็นเวลานานเสียเท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วคนที่อยู่ต่างประเทศจะได้กินบ่อยมากกว่า ซึ่งชีสที่คนเป็นไมเกรนหรือเสี่ยงเป็นไมเกรนต้องงดทานหรือทานให้น้อยมาที่สุดคือ กอร์กอนโซล่าชีส (บลูชีส), คาเมมเบิร์ตและเชดดาร์ชีส เพราะชีสเหล่านี้มีสารไทรามีน (Tyramine) ที่ทำปฏิกิริยากับสารส่งผ่านประสาทในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้ปวดหัวไมเกรนนั่นเอง
อาหารแปรรูป (เนื้อแปรรูป) อาหาร กระตุ้นไมเกรน

นอกจากอาหารแปรรูป หรือเนื้อแปรรูปจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโณคมะเร็งแล้ว ยังเสี่ยงที่จะทำให้มีอาการปวดหัวไมเรนอีกด้วย เพราะอาหารเหล่านี้มีส่วนประกอบของโซเดียมไนเตรทสูง ไม่ว่าจะเป็น เช่น เบคอน ไส้กรอก แฮม บาโลน่าหรือเนื้อรมควัน ซึ่งอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมองจนก่อให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นได้
ผงชูรส (โมโนโซเดียมกลูตาเมด)

ผงนัวหรือผงชูรส เครื่องปรุงรสยอดนิยมของคนไทย เป็นอาหารที่กระตุ้นอาการปวดของไมเกรนได้ดีมากๆ โดยผลวิจัยบอกว่า 2.5% ของคนที่มีอาการปวดหัวนั้น มาจากส่วนประกอบในอาหาร ซึ่งนั่นก็คือผงชูรส เนื่องจากผงชูรสหรือโมโนโซเดียมกลูตาเมดจะไปกระตุ้นสารสื่อประสาทบางชนิดและกระตุ้นให้ผนังหลอดเลือดนั้นหลั่งสารไนตริกออกไซด์ออกมา ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวและเกิดอาการปวดหัวนั่นเอง
น้ำตาล สารให้ความหวาน หรือ แอสปาร์แตม
รู้หรือไม่ว่า น้ำตาลหรือสารใหความหมานของทำให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน โดยสารให้ความหวานแทนน้ำตาลมีความหวานมากกว่าปกติ 180 – 200 เท่า สามารถพบได้ในเครื่องดื่มและอาหารหลายๆ ประเภท ในผู้ป่วยบางรายหากกินสารอาหารอันนี้เข้าไปแล้วจะมีอาการปวดหัวไมเกรนเกิดขึ้นทันที ฉะนั้นสายสุขภาพที่ไม่กินน้ำตาลแต่เลือกกินสารให้ความหวานแทน และมีอาการไมเกรนแทรกซ้อนอาจจะต้องหยุดกินค่ะ
คาเฟอีน ชา กาแฟ อาหาร กระตุ้นไมเกรน

ชาและกาแฟ เครื่องดื่มยอดฮิตของวัยทำงานที่เป็นหนึ่งในอาหารที่กระตุ้นไมเกรนอีกด้วยนะ เนื่องจากมีส่วนผสมของสารอาหารจำพวกคาเฟอีน ซึ่งหากร่างกายของเราได้รับคาเฟอีนมากกว่า 300 มิลลิกรัม จะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง และทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนในที่สุด แต่ในทางกลับกัน หากดื่มหรือจิบช้าๆ หรือดื่มในปริมาณน้อยก็สามารถลดอาการปวดหัวเฉพาะช่วงเวลานั้นได้อีกเช่นกัน
ผลไม้รสเปรี้ยว (ตระกูลซิตรัส)

และสุดท้ายกับ ผลไม้รสเปรี้ยวหรือผลไม้ในตระกูลซิตรัส ไม่ว่าจะเป็น ส้ม มะนาว เกรปฟรุต รสเปรี้ยวเหล่านี้อาจยิ่งกระตุ้นให้ผู้ป่วยไมเกรนมีอาการปวดหัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลตรงกันข้ามกับคนสุขภาพดีที่ไม่ได้เป็นไมเกรนที่ทำให้กินแล้วอาจรู้สึกดี รู้สึกสดชื่น แนะนำว่าให้ดื่มหรือกินผลไม้ประเภทนี้ในปริมาณที่น้อยจะดีกว่า
และนี่ก็คือทั้งหมด 8 อาหารกระตุ้นไมเกรน ที่เราได้นำมาฝากเพื่อนๆ ชาว Workoutkan บอกได้เลยว่าใครที่เป็นไมเกรนหรือมีอาการปวดหัวของไมเกรนบ่อยๆ ต้องรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา อีกทั้งยังต้องปฏิบัติตามแนวทางการรักษาโรคอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการทานยา นอกจากนี้เรื่องของการกินอาหารก็ต้องทำเช่นกัน ถ้าไม่อยากปวดหัวไมเกรน ต้องเลิกทานอาหารตามที่เราแนะนำไปนะคะ
casinovega เสือมังกรออนไลน์ ไพ่เสือมังกรออนไลน์ เสือมังกร ออนไลน์ เสือ มังกร ออนไลน์ บาคาร่าเว็บตรง sa casino online casino sa sa1688 บาคาร่า sa casino เข้าสู่ระบบ ป๊อกเด้งออนไลน์ ได้เงินจริง ป๊อกเด้งได้เงินจริง เล่น ป๊อก เด้ง ได้ เงิน จริง แบล็คแจ็คออนไลน์ juth88 โปรโมชั่นเครดิตฟรี สมัคร-juth88 mgs888 mgs888.vip