เพราะสุขภาพจิตที่แข็งแรงมีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก การดูแลจิตใจให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่แพ้การออกกำลังกายเลยค่ะ ในบทความนี้ทาง Workoutkan จะมาชวนทุกคนออกกำลังให้จิตด้วยวิธีฝึกสุขภาพใจให้แข็งแรง พร้อมกับไปดูความหมายของคำว่า Mental Fitness คืออะไร ไปทำความรู้จักให้มากยิ่งขึ้นกันเลยค่า
รู้จัก Mental Fitness คืออะไร?
แน่นอนว่าเราออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพทางร่างกายที่แข็งแรงนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ครมองข้ามไป ดังนั้นแล้วการออกกำลังสำหรับสุขภาพทางจิตใจ ก็เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้แข็งแรงเช่นเดียวกัน อีกทั้งในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องเผชิญสภาวะทางอารมณ์หรือสถานการณ์ต่างๆ มากมายที่อาจทำให้สุขภาพจิตใจอ่อนไหวหรือไม่แแข็งแรง Mental Fitness จึงเป็นวิธีการที่จะช่วยให้ภาวะจิตใจของเราสามารถเผชิญหน้าและพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
5 วิธีง่ายๆ ฝึกสุขภาพใจให้แข็งแรงในชีวิตประจำวัน
1. โฟกัสกับปัจจุบัน (Mind the Moment)
ในปัจจุบันเราอยู่ในสังคมที่มีความเร่งรีบ เราจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการหรือวางแผนอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเครียดรวมไปถึงประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ ที่ลดลง ดังนั้นการฝึกให้จิตของเราโฟกัสกับปัจจุบันจะช่วยทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น อาจจะเริ่มต้นจากการทำสมาธิโดยวิธีการนั่งสมาธิวันละ 5 นาที, จดสิ่งที่เราคิดหรือเรียงลำดับความสำคัญไว้ลงบนกระดาษ, หรือตัดสิ่งรบกวนที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างอย่างการไถมือถือหรือเล่นโซเชียลมีเดีย รวมถึงการทำอะไรให้ช้าลง โดยการฝึกวันละน้อยอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของชิ้นงานหรือกิจกรรมที่เราโฟกัสให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. บาลานซ์การกิน (Well-balanced Eating)
“You are what you Eat” ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพ ฮอร์โมน รวมไปถึงอารมณ์ของเราก็คือ อาหาร ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารที่ดี จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตที่ดีตามไปด้วย จึงสอดคล้องไปกับข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต ที่ว่า การเลือกอาหารที่ดีนั้นส่งผลต่อภาวะโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวล โดยยังแนะนำกลุ่มอาหารที่ควรเลือกรับประทานอย่าง อาหารในกลุ่มวิตามินบี12 หรือกรดไขมันดีอย่างโอเมก้า 3 เช่น เนื้อปลาต่างๆ หรืออาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตอย่าง ข้าวกล้อง ลูกเดือยหรือถั่ว ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างสารซีโรโทนินให้สมองรู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียด
3. เลิกควบคุมทุกอย่าง ( Let things go )
ข้อถัดมา ต้องทำความเข้าใจกันตรงนี้ก่อนว่า “เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างบนโลกนี้ได้” เพระฉะนั้นการติดนิสัยชอบควบคุมหรือชอบบงการมากเกินไป และอาจส่งผลให้เกิดความเครียดสะสมและปัญหาทางสุขภาพจิตตามมา สิ่งที่เราควบคุมได้ดีที่สุดคือตัวของเราเอง ดังนั้นจึงควรปรับพฤติกรรมให้มีความยืดหยุ่นทั้งทางความคิดและจิตใจ ปล่อยวางในบางเรื่อง เพื่อเสริมความสามารถต่อการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตและเพื่อสร้างสุขภาพจิตที่ดีของเราเองด้วย
4. อย่าลืมที่จะรักตัวเอง ( Be Positive with Yourself )
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราก็คือ ตัวเราเอง การมอบความรักและการดูแลจิตใจของตัวเราเองก่อนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในปัจจุบันคนในสังคมต่างโหยหาการเป็นที่ยอมรับจากคนอื่น จนบางครั้งก็เผลอมองข้ามเสียงจากข้างในของเราเอง และทำให้เห็นคุณค่าในตัวเองลดลงรวมไปถึงอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของเราด้วย ดังนั้นการรักตัวเองเริ่มได้ง่ายๆ โดยการเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง, ดึงพลังงานดีๆ โดยการคิดบวกอยู่เสมอ, หากิจกรรมที่เราชอบทำ รวมไปถึงการให้รางวัลตัวเองบ้างในโอกาสที่เหมาะสม
5. หาเวลารีชาร์จพลัง ( Recharge your mind )
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การหาเวลาพัก ในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น การฝึกสมาธิ การนอนหลับพักผ่อน การออกไปท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ หรือแม้แต่การออกไปเจอเพื่อนฝูง สังคมหรือคนที่รัก เพราะการหาเวลาพักจากการทำงาน หรือจากความเครียดหรือไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตวนลูปแบบเดิมๆ จะช่วยให้เราสามารถผ่อนคลายและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมในการช่วยฟิตสุขถาพจิตให้แข็งแรงขึ้นได้อีกมากมายเลยค่ะ โดยแต่ละคนก็สามารถเลือกมาปรัชใช้ให้เข้ากับตัวเองได้ไม่ยาก เมื่อร่างกายของเราแข็งแรงแล้วก็อย่าลืมหันมาดูแลและใส่ใจสุขภาพจิตของเราให้แข็งแรงกันด้วยนะคะ
- 6 Fiber ไฟเบอร์ 7-11 ยี่ห้อไหนดี ดีต่อการขับถ่าย - November 27, 2024
- มัดรวม 10 เมนู อาหารสร้างกล้ามเนื้อ โปรตีนสูง กินง่าย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน - November 19, 2024
- 3 ท่าออกกำลังกายลดพุง ผู้ชาย ท่าง่าย ๆ ที่บ้านก็ทำได้ - November 8, 2024