10 เทคนิค ลดน้ำหนัก 1 เดือน ลง 6 กิโลกรัม ทำตามนี้ผอมชัวร์

ไหนใครอยากได้วิธีลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนแต่เห็นผลจริงต้องมาอ่านบทความนี้เลยค่ะ เพราะว่าวันนี้เราจะบอกเคล็ด (ไม่) ลับ กับเทคนิคลดน้ำหนัก 1 เดือน ลงไป 6 กิโลกรัม เพียงแค่ทำตามนี้ และทำง่ายมากค่ะ ถ้าคุณมีวินัยรับรองว่าเห็นผลชัวร์ๆ แถมไม่เป็นนอันตราย แต่จะมีวิธีไหนบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ

1. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : กินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูง

อย่างที่มราบกันดีว่ามื้อเช้านั้นสำคัญมาก ๆ ไม่ควรงดเลยล่ะค่ะ แต่จะกินอย่างไรให้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้นั้น ให้ทุกคนลองเปลี่ยนจากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่เรามักจะทานบ่อยๆ ในมื้อเช้ มาเป็นจำพวกโปรตีนสูงแทนค่ะ เพราะจะทำให้เราอิ่มท้องนาน ไม่ต้องหิวขนมจุกจิกตลอดเวลาจนอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ที่สำคัญยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย ใครอยากผอมต้องเปลี่ยนการกินนะจ๊ะ!

2. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : กินผักให้ได้ครึ่งหนึ่งของอาหารเย็น

มื้อเย็น สิ่งสำคัญเลยคือควรหลีกเลี่ยงประเภทคาร์โบไฮเดรต อย่างเช่น ข้าว พาสต้า ก๋วยเตี๋ยว หรือขนมปัง เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในร่างกายนั่นเองค่ะ และหากน้ำตาลเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เป็นพลังงาน ก็จะถูกเก็บเป็นไขมันสะสมในร่างกายแทน ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง

3. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : กินไขมันดีให้ได้หนึ่งส่วนในทุกมื้ออาหาร

วิธีลดน้ำหนักแบบลดคาร์โบไฮเดรตและหันมาบริโภคจำพวกที่มีไขมันดีแทนนั้น จะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้เร็วมากยิ่งขึ้น หรือหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินวิธีการลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิคนั่นเองค่ะ  เรานั้นสามารถพบไขมันดีได้ในอาหารจำพวกไขมันปลา ถั่วหรือเมล็ดพืช เช่น วอลนัท เมล็ดแฟล็กซ์ เมล็ดเจีย เป็นต้น โดยเราจะต้องเพิ่มไขมันดีเข้าไปให้ได้ประมาณหนึ่งส่วนในทุกๆ มื้อนั่นเอง

4. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : กินอาหารครบ 3 มื้อ

ข้อนี้สำคัญมากเราควรทานให้ครบ 3 มื้อ แต่สิ่งที่ควรลดลงนั่นก็คือการงดพวกขนมขบเคี้ยวต่างๆ ระหว่างวันนั่นเองจ้า การเว้นระยะเวลาการกินมื้อถัดไป 5 ชม. อย่างเช่น หากทานมื้อเช้าตอน 9.00 น. ก็ควรทานมื้อกลางวันตอน 14.00 น. และมื้อเย็นตอน 19.00 น. นั่นเอง โดยที่จะต้องคอยควบคุมเวลาไม่ให้เราทานตอนดึกเกินไปด้วยนะคะ ทางที่ดีคือห้ามไปเลยดีกว่า

5. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : เลือกกินขนมที่ดีต่อสุขภาพ

อยากจะลดน้ำหนักก็ใช่ว่าเราจะต้องงดทานขนมเสมอไปนะคะ พยายามอย่าเคร่งเครียดจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ไม่ได้ผลก็เป็นได้ ส่วนใครอยากจะกินขนม หรือชอบทานของว่างระหว่างวันเป็นปกติอยู่แล้ว แนะนำให้เลืเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะดีกว่าพวกขนมน้ำตาลสูงค่ะ

6. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : ออกกำลังกาย 5 ครั้งต่อสัปดาห์

นอกจากการควบคุมอาหารแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยนะคะ เพราะนั่นทำให้การลดความอ้วนของเราได้ผลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ส่วนประเภทที่เห็นผลเร็วนั้นก็คือ HIIT และ เวทเทรนนิ่ง นั่นเอง โดยจะต้องทำควบคู่กันไป เพราะจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกาย ยิ่งเรามีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ ร่างกายก็จะสามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากเท่านั้น แม้แต่ในขณะที่เราหยุดพักก็ตาม

7. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : ออกกำลังกายตอนเช้า

ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับออกกำลังกายคือช่วงเช้าค่ะ เพราะตอนเช้าเป็นวิธีเริ่มต้นการเผาผลาญที่สมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังทำให้เราอาจจะเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นในระหว่างวันอีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ผล แนะนำให้ออกช่วงเช้าเลย ส่วนใครที่อยากเบิร์นไขมันก่อนไปทำงานแนะนำว่าให้ทำ 10-15 นาทีตอนตื่นนอนก็ได้เช่นกัน

8. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : ดื่มน้ำก่อนอาหารแต่ละมื้อ

ก่อนรับประทานข้าวในแต่ละมื้อ ควรดื่มน้ำเปล่าก่อนทุกครั้งให้ได้ 16 ออนซ์ (หรือประมาณ 473 มล.) เพราะการดื่มน้ำก่อนกินข้าวจะสามารถช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้ จากการวิจัยพบว่าผู้ที่ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารสามารถลดน้ำหนักได้เยอะกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มค่ะ ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีเลยสามารถทำให้เราลดความอ้วนได้เร็ว

9. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : ลดน้ำตาล

น้ำตาลถือเป็นตัวการทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะ และเป็นสิ่งที่ควรลดอย่างยิ่งเลยค่ะ พวกชานมไข่มุก ชานมต่าง ๆ เนื่องจากหากน้ำตาลไม่ได้ถูกใช้เป็นพลังงาน ดังนั้นร่างกายก็จะเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไขมันแทน เพื่อเก็บไว้ใช้ในอนาคต ทำให้ร่างกายของเรามีไขมันสะสมเพิ่มขึ้น จนน้ำหนักเพิ่มขึ้นนั่นเอง

10. ลดน้ำหนัก 1 เดือน : ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

มาถึงข้อสุดท้ายกันบ้าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นตัวการที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ด้วยนะคะ ดังนั้นในช่วงที่เรากำลังไดเอทอยู่นั้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีกว่า เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ถือว่ามีน้ำตาลสูง ตัวการที่ทำให้เราอ้วนได้เลย รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นการเพิ่มความอยากอาหารให้เรากินเยอะมากขึ้นไปอีกนั่นเอง เลี่ยงด่วนๆ เลยจ้าถ้าอยากผอม

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ workoutkan