การปั่นจักรยานลดน้ำหนัก ถือเป็นอีกรูปแบบการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยข้อดีในเรื่องของความสะดวก สามารถใช้เป็นพาหนะปั่นไปได้ทุกที่ทุกเวลา ใช้งบประมาณน้อย และเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนต้องการการออกกำลังกายช่วยเร่งการเผาผลาญ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจว่าจะเลือกใช้จักรยานยี่ห้อไหนดี แบบไหนดี ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน ก่อนอื่นเราไปเริ่มกันที่ประเภทจักรยานที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ไปดูกันเลยค่าว่ามีแบบไหนบ้าง
1. จักรยานฟิตเนส
การปั่นจักรยานลดน้ำหนักฟิตเนส ลดน้ำหนัก หรือ Stationary Bike ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายที่บ้านได้หรือเล่นได้ทุกสภาพอากาศได้ มีฟังก์ชันครบ สามารถเลือกความต้านทานขณะปั่นตามความแข็งแรงของผู้ใช้ โดยจักรยานฟิตเนสจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ
- จักรยานออกกำลังกายแบบนั่งตรง หรือ Upright Exercise Bike
เป็นจักรยานที่มีลักษณะเหมือนจักรยานทั่วไป ที่เป็นการนั่งตรงแล้วปั่น แฮนด์จะถูกบังคับให้จับแบบตายตัวไม่สามารถปรับท่าทางได้ แต่สามารถปรับระดับความต้านทานในการปั่นได้ มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ออกกำลังกายตั้งแต่แบบเบา – กลาง เน้นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เหมาะกับการยืดกล้ามเนื้อ และเหมาะกับคนน้ำหนักตัวมากและผู้สูงอายุ
- จักรยานออกกำลังกายแบบนั่งตรง หรือ Upright Exercise Bike
เป็นจักรยานแบบนั่งเอนปั่นที่มีพนักพิง มีความปลอดภัยสูง ขณะปั่นจะไม่ทำให้เกิดแรงกระแทกใด ๆ กลับมาที่กระดูกช่วงสะโพก จึงเหมาะกับคนมีปัญหาด้านกล้ามเนื้อและกระดูกขา อาจจะน้ำหนักตัวมาก และผู้สูงอายุ
- จักรยานออกกำลังกายแบบนั่งตรง หรือ Upright Exercise Bike
เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานลดน้ำหนักเพื่อเบิร์นโดยเฉพาะ สามารถปรับได้ทั้งแฮนด์จับและเบาะนั่ง ทำให้สามารถปั่นได้ในหลายท่า ทั้งนั่งปั่น หมอบปั่น ยืนปั่น และสามารถปรับความเร็วได้ตามต้องการ โดยจักรยานประเภทนี้นิยมใช้จัดเป็น Group ในฟิตเนส แบบ Spinning Class หรือ RPM Class และมีเทรนเนอร์มาแนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
2. จักรยานเสือหมอบ (Road Bike)
Road Bike หรือจักรยานเสือหมอบ เป็นจักรยานที่ต้องปั่นในท่าหมอบต่ำ เนื่องจากยางมีขนาดเล็กจึงเน้นการทำเวลาและความเร็วในการปั่นจักรยานลดน้ำหนักบนที่เรียบและถนน ตัวจักรยานส่วนใหญ่จะใช้เบรกแบบคาลิเปอร์ที่ติดตั้งบริเวณขาตะเกียบหรือขาโช๊คด้านหน้า สามารถบังคับได้ง่าย จึงเหมาะกับผู้ต้องการสนุกกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอด้วยการปั่นโดยใช้ความเร็ว เพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และช่วยลดต้นขาและน่องได้ดี
3. จักรยานฟิกเกียร์ (Fixed Gear)
จักรยานเกียร์เดียว ล้อหลังไม่สามารถฟรีได้ และต้องปั่นตลอดเวลาขณะจักรยานวิ่ง มีข้อดีในเรื่องขนาดที่เล็ก เพรียวกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา จึงมีอีกชื่อเรียกว่า Messenger Bike ที่ผู้ปั่นสามารถปั่นได้หลากหลายท่าซอกแซกไปตามซอยต่าง ๆ ได้ เหมาะกับผู้ต้องการปั่นออกกำลังกายในระยะเวลานาน
ปั่นจักรยานลดน้ำหนัก ควรปั่นกี่นาที
การปั่นจักรยานลดน้ำหนักให้ได้ผลดี ควรใช้ระยะเวลาในการปั่นให้เหมือนกับการคาร์ดิโอทั่วไป โดยปั่นอย่างน้อย 40 นาที 3 – 4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งจะช่วยเผาผลาญพลังงานเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 400 – 500 กิโลแคลอรี/ชั่วโมง ซึ่งหากเรามีการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอติดต่อกันก็จะทำให้น้ำหนักของเราค่อย ๆ ลดลงได้
ปั่นจักรยานช่วยลดกี่แคล
โดยทั่วไปแล้วในการปั่นจักรยานลดน้ำหนักนาน 1 ชั่วโมง สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 – 500 กิโลแคลอรี ซึ่งยิ่งเราปั่นเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเผาผลาญมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและความหนักในการปั่นด้วย เช่น ในการปั่นแบบเบา ๆ ด้วยความเร็ว 16 – 19 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัว 86 กิโลกรัม จะเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 470 กิโลแคลอรี คนน้ำหนักตัว 70.3 กิโลกรัม จะเผาผลาญพลังานได้ประมาณ 380 กิโลแคลอรี
การปั่นจักรยานลดน้ำหนักเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายและสะดวก อีกทั้งยังเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เป็นกิจกรรมที่สนุก สามารถปั่นคนเดียวหรือปั่นเป็นหมู่คณะได้ ทั้งนี้ก่อนจะไปเริ่มปั่น ลดน้ำหนักก็ควรตั้งเป้าหมายไว้ให้ชัดเจน ควรศึกษาวิธีการ วางแผน และมีการป้องกันด้วยอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยด้วยจ้า
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ workoutkan
- แนะนำ 8 วิตามินเยลลี่ แคลต่ำ อัพเดต 2024 อร่อย กินง่าย ได้ประโยชน์ แค่เคี้ยว - November 28, 2024
- รวม 8 อาหารเสริม ปรับรอบเดือน ลดฮอร์โมน ให้ประจำเดือนมาปกติ - September 30, 2024
- วิธีการกินแบบ Cheat Meal กินยังไงให้ไม่หลุดรูทีน ไม่ให้หุ่นพังหลังวัน Cheat Day - September 11, 2024